วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Class 5

กรณีศึกษา : California state automobile association
ปัญหา : IT infrastructure ใกล้จะถึงช่วงระยะเวลาอิ่มตัว ไม่สามารถเชื่อมต่อกับคู่ค้าได้ ไม่สามารถ support ระบบได้ และการปรับปรุงไม่สามารถทำได้
วิธีแก้ไข : replace server โดยใช้ web farms แทน
ผลลัพธ์ : ภายใน 1 ปีน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา 7.5 ล้านดอลล่าร์ ROI 493% ทำให้ส่งของให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น ลดต้นทุน  บริหารจัดการการรักษาความปลอดภัยได้ดีขึ้น

Moore’s Law
·        คาดว่า power of computer chip มีคุณภาพดีขึ้นทวีคูณ ในทุกๆเดือนในขณะที่ต้นทุนยังคงที่
·        โอกาสที่องค์กรจะซื้อของดีในราคาที่ถูกมากขึ้น
·        Price to Performance พบว่าควรจะลดลงในรูปแบบ Exponentially
·        เมื่อถึงจุดหนึ่งเทคโนโลยี silicon-based chip จะถึงจุดอิ่มตัว ต้องเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่น

Productivity Paradox
คือ การที่อัตราการพัฒนาของเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่อัตราการพัฒนาของสิ่งอื่นๆ ไม่รวดเร็วเท่า เช่น เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผลลัพธ์ของการใช้พัฒนานี้มีอัตราการเติบโตที่น้อยกว่าอัตราการเติบโตของเทคโนโลยี ซึ่งเหตุผลของการที่สิ่งอื่นๆ พัฒนาไม่ทันเทคโนโลยีนั้นมีสาเหตุดังนี้
·        Productivity gain วัดได้ยากไม่สามารถแสดงผลให้เห็นได้ชัดเจน
·        Productivity gain อาจหักลบกลบหนี้กับการลงทุนที่สูง ซึ่งทำให้ไม่เห็นผลที่ชัดเจน
·        การลงทุนใน IT ใช้ต้นทุนสูง benefit ที่ได้อาจได้ช้าหรือไม่คุ้ม
·        อาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่จะได้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เช่น  ปัจจัยด้านกฎหมาย
ถึงแม้ Productivity Paradox จะมีข้อเสียจำนวนมาก แต่ Productivity Paradox ก็อยู่ เนื่องจาก
o    สามารถช่วยเพิ่มผลิตผลได้ 
o    ได้ผลทางตรง เช่น ได้กำไร และผลทางอ้อม เช่น ภาพลักษณ์ดีขึ้น

Why justify IT Investment?
           ในการลงทุนทางด้าน IT นั้นองค์กรมีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งข้อจำกัดด้านงบประมาณ เวลา และบุคคลากร ทำให้ต้องมีการประเมินทางเลือกว่าจะเลือกพัฒนา IT อันไหนก่อนหลัง เนื่องจากต้องการให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด

The IT Justification Process
  • หาเครื่องมือการวิเคราะห์ที่เหมาะสม
  • สร้างตัววัดที่มีประสิทธิภาพ
  • ประเมิน ทำให้เข้าใจง่าย และบันทึกเป็นเอกสารไว้
  • คำนวณทางเลือก ซึ่งอย่าลืมรวมการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้วย
  • การที่จะพัฒนาด้าน IT นี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรหรือไม่
  • ไม่ควรประเมินต้นทุนที่เกิดขึ้นสูงหรือต่ำจนเกินไป
  • ร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
Difficult in Measuring Productivity& Performance Gains
·         ยากที่จะระบุว่าจะวัดอะไร
·         Time lags : ทำให้การวัดผลต้องทำหลัง install ระบบไปแล้ว และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
·          ผลกระทบของการลงทุน IT วัดจากการดำเนินงานขององค์กรได้ยาก
  
Intangible Benefits
·         วัดความพอใจ
·         ประสิทธิภาพในการสื่อสารของพนักงาน

Costing IT Investment
                แบ่งเป็น fixed cost ซึ่งเป็นการลงทุนในส่วนของ infrastructure และ transaction cost ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ install ระบบแล้ว ได้แก่ ต้นทุนในการค้นหาสินค้าของลูกค้า ต้นทุนในการจัดหาข้อมูล ค่าใช้จ่ายในการเจรจาตกลงซื้อขาย ต้นทุนในการตัดสินใจและต้นทุนใน monitoring

Revenue Models generated by IT&Web
·         Sales เช่น เปิดเว็บขายของ
·         Transaction fees เช่น EBAY
·         Subscription fees เช่น เว็บให้ดาวน์โหลดเร็วขึ้น
·         Advertising fees เช่น GOOGLE
·         Affiliate fees เช่น AGODA

Cost-Benefit Analysis
ดูว่าโครงการลงทุนคุ้มค่าหรือไม่ โดยเปรียบเทียบเงินที่ใช้ในการลงทุนกับผลประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งสามารถทำได้โดยการระบุ ประเมินค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ที่ได้ในรูปของตัวเงิน สำหรับในส่วนของ Intangible benefit ก็ต้องประเมินออกให้เป็นตัวเงินเช่นกัน

Cost-Benefit Evaluation Techniques
        Net Profit : สนใจแค่กำไรทั้งก้อน ละเลยเรื่องของสัดส่วนเงินลงทุนต่อผลกำไรและมูลค่าของเงินตามเวลา
        Payback period : พิจารณาระยะเวลาของการคืนทุนเพียงอย่างเดียว ละเลยเรื่องของผลกำไร สัดส่วนเงินลงทุนต่อผลกำไรและมูลค่าของเงินตามเวลา
        ROI : พิจารณาสัดส่วนของเงินลงทุนกับผลตอบแทนที่จะได้รับ แต่ละเลยในเรื่องของมูลค่าของเงิน
        NPV : พิจารณาในส่วนของกระเเสเงิน ซึ่งเป็นการคำนึงมูลค่าของเงินตามเวลา อย่างไรก็ตามอาจมีปัญญาในเรื่องของการตัดสินใจใช้ discount rate ได้ ซึ่งทำให้การประเมินทำได้ยาก
        IRR :  เป็นการประเมินผลเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาในการเปรียบเทียบ NPV ระหว่างโครงการ การคำนวณ IRR ทำได้โดยหาจุดที่ทำให้ NPV เป็น

Advances Methods for Justifying IT Investment and Using IT Metrics
  • Business case : ทำเป็นเอกสารประเมินทางเลือกของ IT เน้นให้เห็นมุมมองหลายแง่มุม
  • Total cost (and benefit) of ownership : คำนวณต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งต้นทุนแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ acquisition cost, operation cost และ control cost
  • Benchmarks : เทียบกับคนที่ดีที่สุด คนที่อยู่ตรงกลาง และคนที่อยู่ท้ายสุดของอุตสาหกรรมฺ
  • Balance scorecard : มอง 4 มุมมอง คือ customer, financial, internal business processes และ learning and growth ซึ่งแต่ละมุมมองจะต้องมีการกำหนดเป้าหมาย (KPIs) ที่ชัดเจน และสอดคล้องกับ mission, vision ขององค์กร
Managerial Issues
·         ต้องเตรียมพร้อมรองรับความเปลีี่่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี
·         เปลี่ยนจากการให้ความสำคัญกับด้านการเงินเพียงอย่างเดียว มาเป็นให้ความสำคัญด้านคุณภาพด้วย
·         ต้องมีการวัดอย่างสม่ำเสมอว่าสิ่งที่ใช้อยู่นั้นยังทำงานได้เหมาะสมกับองค์กรหรือไม่ เพราะอาจมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา ทำให้ที่ใช้อยู่นั้นไม่เหมาะสมกับองค์กรแล้ว
·         มองหาวิธีในการดึงดูดให้ผู้ใช้เปลี่ยนพฤติกรรม
·         พิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงโอกาสที่จะเกิด ซึ่งจะต้องลำดับความสำคัญและหาวิธีจัดการกับความเสี่ยงนั้น
·         ดูว่าจะใช้วิธีไหนมาวัดให้เหมาะสมมากที่สุด
·         ดูว่าใครควรเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือก IT แบบไหน ส่วนใหญ่ปัจจุบันจะเป็น Steering Committee และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกที่เป็นคนเลือกระบบไอที
ฐิตยาภรณ์ ธีรานุวรรตน์ 5202115381

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น